ความจริงของผู้หญิงน่าหลงใหล
คุณอาจจะเถียงคอเป็นเอ็นว่า ฉันไม่มีวันเปลี่ยนตัวเองหรอก ฉันไม่สนว่าเขาจะชอบผู้หญิงแบบไหน แต่ฉันเป็นของฉันอย่างนี้ล่ะ ไม่ชอบก็ไม่ต้องชอบ แหม..ช้าก่อน ใจเย็นๆ คุณอาจจะเป็นผู้หญิงที่เขาหลงใหลอยู่แล้ว แต่แค่มีอะไรบางอย่างเก็บกดความเป็นคุณเอาไว้ ขอให้ปลดปล่อยมันออกมาเถอะ แล้วเขาจะทั้งรักทั้งหลงคุณไม่จืดแน่
ผู้หญิงที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
การที่ผู้หญิงแสดงออกมาว่าตัวเองต้องการอะไร ตอนนี้มีความสุขหรือความต้องการต่างๆออกมานั้น ผู้ชายมักจะคิดว่าเขาไม่สามารถควบคุมเธอได้ แต่ถึงเวลาที่เราผู้หญิงต้องเปลี่ยนทัศนคติของผู้ชายเหล่านี้แล้วล่ะ ความจริงแล้วในปัจจุบันผู้ชายกลับชอบผู้หญิงที่ "มีความมั่นใจในตัวเอง" และเป็นตัวของตัวเอง
ผู้หญิงในยุคนี้ต้องการค้นหาความต้องการของตัวเองมากขึ้น สนุกกับงานที่ทำ ชอบทำกิจกรรม เล่นกีฬา เดินทาง หรือแม้แต่การเกิดความต้องการทางเพศโดยไม่ต้องรู้สึกผิด ในบางครั้งอาจค้นพบความตื่นเต้นครั้งใหม่ด้วยตัวเองอีกด้วย หลายคนเชื่อว่าไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ ก็ฉันเป็นคนเรียบร้อยนิจะให้ออกสังคมระริกระรี้ได้อย่างไรกัน เพียงแค่คุณลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองสักเล็กน้อยทีละนิดๆก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ชีวิตคุณมีความสุข และทำตามที่ตัวเองต้องการบ้าง
แล้วผู้ชายล่ะคิดอย่างไร
ผู้ชายที่โดยเฉพาะมุ่งมั่นเรื่องงงาน เขามักพบว่าผู้หญิงที่สามารถแสดงออกถึงความปรารถนาของตนเองจะเป็นผู้หญิงที่สามารถปลดปล่อยอารมณ์ได้มากกว่าและมีชีวิตชีวากว่า ผู้หญิงที่ไม่กลัวที่จะแสดงออกถึงความเป็นตัวเองจะสามารถแสดงอารมณ์ได้ดีและดูสนุกสนาน ผู้ชายทำงานหนักและเหนื่อยกับชีวิตจะต้องการเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป พวกเขาจะมองหาผู้หญิงที่เข้าอกเข้าใจและทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาได้
คุณรักกันแล้วย่อมอยากใช้ชีวิตร่วมกัน แต่บางครั้งกลับตรงกันข้าม อาจจะมีทะเลาะกันบ้าง จงใช้จุดนั้นล่ะสร้างความเข้าใจกัน การได้ระบายอารมณ์ใส่กันบ้างจะทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายคิดเช่นไรและมันช่วยให้คุณแสดงอารมณ์ที่แท้จริงออกมา ทั้งรัก ทั้งโกรธ และนี่ล่ะเป็นเหตุผลที่หลายคู่ลงเอยด้วยการร่วมรักหลังจากทะเลาะกัน เราไม่ได้บอกให้ไปทะเลาะกับแฟนนะคะ เพียงแค่อยากให้รู้จักระบายออกมาบ้าง
เข้าใจตัวเองมากขึ้น
คนเรามักเก็บความรู้สึกไว้เพราะคิดว่ามันอันตรายต่อความสัมพันธ์ กลัวว่าถ้าแสดงออกไปอย่างนี้เขาจะไม่ชอบและพาลเบื่อเราไป เราเลยเปิดเผยเฉพาะนิสัยที่คิดว่าเขาน่าจะยอมรับมากกว่า คุณปิดกั้นตัวเองและไม่เผยตัวตนจริงๆให้เขาได้รู้ สิ่งแรกที่คุณควรทำคือถามตัวเองว่า คุณกำลังซ่อนอะไรบางอย่างหรือเปล่า คุณให้เขารู้จักตัวตนคุณมากแค่ไหน หากรู้ตัวว่าคุณเป็นคนขี้อายและไม่สามารถเผยตัวเองออกมาได้ คุณก็ควรรับรู้ถึงการกระทำของตัวเองว่า การอายเป็นเรื่องปกติ ความรู้สึกประหม่าหรือกังวลใจ เป็นเรื่องที่ทุกคนเคยมาแล้ว มันเป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ความสัมพันธ์ก็เช่นกัน ผู้หญิงที่กล้าจะแสดงออกถึงความต้องการของตัวเองให้คนรักรู้ คือคนที่ยอมให้ความรู้สึกภายในได้เผยออกมา คุณควรเชื่อใจตัวเองว่าคุณสามารถผ่านช่วงเวลาที่คุณประหม่านี้ไปได้ วิธีคือคุณลองจินตนาการภาพของตัวเองในช็อตที่คุณสามารถฝ่าฟันความขี้อายและประหม่านี้ได้ เราจะทำให้สิ่งที่เราต้องการไม่ได้หรอกหากเราไม่จินตนาการเตรียมไว้ว่าเราทำสำเร็จ หากคุณสามารถกระตุ้นความรู้สึกปรารถนาในตัวเองให้ออกมาได้ คู่รักของคุณจะรับรู้มันได้ และจะยิ่งรู้สึกใกล้ชิดคุณมากขึ้น
เป็นผู้หญิงแบบไหนเขาจะโรแมนติกขึ้น
สำหรับผู้หญิง ความโรแมนติกสำคัญมากๆ ตัวคุณเองมักบ่นกับแฟนเสมอว่าเธอช่างไม่โรแมนติกกับฉันเลย ทำไมไม่เหมือนตอนที่จีบกันเลย ความโรแมนติกสำหรับผู้หญิงคือความรักและกรแสดงออกถึงความปรารถนา ความไว้ใจและความรู้สึกใกล้ชิดกัน แต่ผู้ชายกลับแสดงความรู้สึกนี้ในทางที่ต่างกันไป ความรู้สึกรักและปรารถนาของเขาจะมาจากความไม่แน่ใจว่าผู้หญิงคนนี้สนใจเขาจริงหรือไม่ ผู้ชายมักกระตือรือร้นเป็นพิเศษตอนจีบ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจผู้หญิง และเมื่อเขาได้เข้าใกล้เธอมากขึ้นและเริ่มมั่นใจในความรักนี้ เกมรุกของเขาก็จะเริ่มช้าลง
ผู้หญิงควรเตรียมตัวไว้ที่จะรู้และเข้าใจความคิดของผู้ชาย การสร้างระยะห่างระหว่างคุณกับเขาบ้าง จะเป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ ลองทำอะไรด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องมีเขาอยู่ด้วย หาความสนใจกับสิ่งอื่นๆเยอะๆ เช่น คุณลงเรียนอะไรสักคอร์ส และไม่ต้องให้เขาไปนั่งรอ การที่คุณไม่ได้อยู่หรือต้องการเขาตลอดเวลา จะช่วยกระตุ้นความโรแมนติกในตัวเขาให้ออกมาเอง และมันจะสร้างความตื่นเต้นให้เขาอยากเอาชนะใจคุณอีกไปเรื่อยๆ
